เมื่อวันที่ 11 มี.ค.68 มีรายงานว่า พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สวญ.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., ว่าที่ พ.ต.ต. บดี ดวนพล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ร.ต.อ.ภิเชศ นาเมืองรักษ์ รองสว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล., ร.ต.ท.ศิริพงษ์ ฉ่ำศิริ ,ร.ต.ต.พิเชษฐ์ วรวิสุทธิวงศ์ รอง สว.(ป) ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล , ด.ต.ดาวรุ้ง สุขผดุง , ด.ต.นฤเบศร์ สุริยนต์, จ.ส.ต.ฉัตรชัย จิตรถวิล ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ร่วมกันจับกุม นายธนกฤต(สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ตามหมายจับของศาลตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 433/2567 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันยักยอกทรัพย์” อีกรายจับกุม น.ส.กัลยกร (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ตามหมายจับของศาลตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 434/2567 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันยักยอกทรัพย์” พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์โตโยต้า รุ่นยาริส สีเทา จำนวน 1 คัน พร้อมกุญแจรถ 1 ดอก และแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 2 แผ่น โดยสามารถจับกุมได้ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มี.ค.68 ที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ จนกระทั่งถึงบริเวณถนนหมายเลข 3 กม. 153-154 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี (มุ่งหน้าพัทยา) ได้พบรถยนต์โตโยต้า สีดำ เปลี่ยนช่องทางการเดินรถอย่างกะทันหันก่อนขึ้นสะพาน จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถ เพื่อทำการตรวจสอบและว่ากล่าวตักเตือน โดยพบนายธนกฤต เป็นผู้ขับขี่ และและมี น.ส.กัลยกร นั่งด้านข้างคนขับ
จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว เบื้องต้นพบว่าไม่ติดแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษี ไม่มีสำเนาใบคู่มือจดทะเบียน และได้ตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียนของรถคันดังกล่าว พบว่าได้จดทะเบียนยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว ซึ่งคนละคันกัน จึงได้เชิญตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารพร้อมรถยนต์คันดังกล่าวมาที่หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงพัทยาเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติม จากการตรวจสอบหมายจับ พบว่านายธนกฤต มีหมายจับของศาลแขวงนนทบุรี โดยมีผู้เสียหายได้ทำการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ทรัพย์ที่ถูกยักยอกคือ รถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกจับว่า “ร่วมกันยักยอกทรัพย์” พร้อมควบคุมตัวส่ง สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินดคีต่อไป
นอกจากนี้ จากตรวจสอบประวัติข้อมูลของนายธนกฤตและนางสาวกัลยกร 2 ผู้ต้องหา พบว่าได้ทำการตระเวนเช่ารถ และตัดสัญญาณจีพีเอสที่ติดไว้กับตัวรถเช่าเพื่อหลบหนีการติดตาม ก่อนจะนำรถที่เช่ามานั้นไปขาย หากเป็นรถยนต์จะนำส่งขายตลาดมืดมือสอง ส่วนรถจักรยานยนต์ส่งขายไปยังตลาดมืด และประเทศเมียนมา กัมพูชา ซึ่งมีผู้เสียหายแจ้งความไว้ 4 สภ. ได้แก่ สภ.พานทอง สภ.เมืองพัทยา สภ.นนทบุรี สภ.กาญจนบุรี และยังมีกลุ่มผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุยักยอกทรัพย์ไป ทั้งนี้ หากมีผู้ใดคาดว่าได้รับความเสียหายจากผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 ราย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่เพจสถานีตำรวจทางหลวงชลบุรี หรือตำรวจสอบสวนกลางต่อไป
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรีได้ประสานนายอธิศ ผู้เสียหาย เจ้าของรถ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา ให้มารับมอบรถคืน ซึ่งได้ขอบคุณและชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรี ที่มีปฏิภาณไหวพริบ ตรวจสอบรถต้องสงสัยตามท้องถนน จนทำการจับกุมผู้กระทำผิดดังกล่าวได้