( 7 ต.ค.) นายวิวัฒน์ สมบัติหลาย ประธานกลุ่มธรรมาภิบาล เครือข่ายภาคประชาชนต้านทุจริตและคอร์รัปชั่น ในฐานะตัวแทนเครือข่ายผู้ถือหุ้น บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ หรือ EASTW เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารกสิกรไทยที่ ธนาคารกสิกรไทย พหลโยธินเพื่อขอให้ยืนยันเอกสารกรณีมีผู้ปลอมหนังสือค้ำประกัน ที่ออกโดยธนาคารกสิกรไทย จำนวน ๒ ฉบับ ไปประกอบการทำสัญญาเป็นผู้รับจ้างโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ต.สำนักบก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี วงเงินจ้าง ๗๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท(เจ็ดสิบห้าล้านบาท) กับ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ ผู้ว่าจ้าง เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ทำให้อีสท์วอเตอร์และผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย โดยมีนายสุชาติ โพธิ์พันธุ์ พนักงานฝ่ายกฏหมาย ธนาคารกสิรไทย เป็นผู้รับมอบหนังสือ
นายวิวัฒน์ ระบุว่า ทางด้านของเครือข่ายผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้น อีสท์วอเตอร์ ได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้ดำเนินคดีกับ บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด กับพวก ฐานความผิด ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ต่อ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๕ กรณี บริษัท โกบอล โปรสเปคเตอร์ แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด ที่ได้ทำและนำหนังสือสัญญาค้ำประกันธนาคารกสิกรไทยปลอมจำนวน ๒ ฉบับ ไปประกอบการทำสัญญาเป็นผู้รับจ้างโครงการปรับปรุงสระเก็บน้ำสำนักบก ต.สำนักบก อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี วงเงินจ้าง ๗๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท(เจ็ดสิบห้าล้านบาท) กับ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ ผู้ว่าจ้าง เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ทำให้อีสท์วอเตอร์และผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหาย
โดยเครือข่ายผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นEASTW จึงได้เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอให้ทางด้านธนาคารกสิรกรไทย ตรวจสอบหนังสือค้ำประกันสัญญาทั้ง ๒ ฉบับดังกล่าว เพื่อยืนยันว่าเป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้อง และหรือเป็นเอกสารที่มีผู้ทำปลอมขึ้นมา โดยไม่เกี่ยวข้องกับทางธนาคารแต่อย่างใด เพื่อให้ผู้ถือหุ้นนำไปเป็นพยานหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีขบวนการปลอมหนังสือค้ำประกันจนถึงที่สุด เพื่อประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องของผู้ถือหุ้นEASTWต่อไป โดยหลังจากนี้จะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมยื่นเรื่องไปยังปปง.เอาผิดฐานฟอกเงินต่อไป
นายสุชาติ ระบุว่า ในการนำเอกสารปลอมโดยมีการแอบอ้างอ้างธนาคารกสิกรไทย ได้สร้างความเสียหายให้กับธนาคาร ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นธนาคารถือเป็นผู้เสียหาย ดังนั้น การดำเนินการหลังจากนี้ ทางด้านฝ่ายกฏหมายธนาคารกสิกรไทย จะดำเนินการตรวจสอบเอกสารหากพบว่า เป็นเอกสารปลอม ก็จะดำเนินการทางกฏหมายเพท่อเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
Advertisement