ความคืบหน้า หลังนางรัตติกาล อายุ 46 ปี ยอมรับสารภาพกับตำรวจว่าได้ร่วมกับลูกชาย คือ นายวรยุทธ์ หรือต้น อายุ 30 ปี (ลูกชายคนโต กับสามีคนแรก) ฆ่ารัดคอ นายวัชระ นกงาม อายุ 52 ปี หรือลุงเบื๊อก ผู้เป็นสามี ก่อนจะนำศพไปทิ้งอำพรางคดี ขณะที่ศาลจังหวัดพัทยา อนุมัติออกหมายจับทั้ง 2 คนแล้ว
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น. ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี ได้เดินทางมาทำการเก็บหลักฐานลายนิ้วมือรวมถึงดีเอ็นเอ ภายในรถยนต์กระบะแคป โตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บห 8579 ราชบุรี ซึ่งตำรวจสามารถตรวจยึดมาได้ และเป็นรถที่ใช้ในการก่อเหตุตั้งแต่พาคนตายขึ้นรถ แล้วใช้สายยางรัดคอจนเสียชีวิต ในเบื้องต้นพบว่ารถถูกนำไปชำระล้างและทำความสะอาด ซึ่งตำรวจก็ พยายามเก็บหลักฐานทั้งลายนิ้วมือรวมถึงดีเอ็นเอภายในรถ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการมัดตัวผู้กระทำความผิด
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. ( 6 มี.ค.67 ) พล.ต.ต. ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี , พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี , พ.ต.อ.อรรถพล อิทธโยภาสกุล ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ , พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.ชลบุรี ชุดสืบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ได้คุมตัวผู้ต้องหา ทั้ง 2 คน คือ นางรัตติกาล และนายวรยุทธ์ หรือต้น ( ลูกชายคนโต กับสามีคนแรก ) มาทำการจำลองเหตุการณ์ บริเวณหน้า สภ.ห้วยใหญ่ ในเบื้องต้นระหว่างที่กำลังคุมตัวออกมา ทั้ง 2 แม่ลูกมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ได้ตอบคำถามใดใดกับผู้สื่อข่าว
ตำรวจได้จำลองเหตุการณ์ ในวันลงมือสังหาร คือเช้ามืด ช่วงเวลาตี 4-5 ของวันที่ 1 มกราคม ซึ่งผู้ต้องหาได้จำลองเหตุการณ์ตั้งแต่นาทีขึ้นขับรถไปรับผู้ตาย ที่อำเภอบ้านฉาง จ.ระยอง ก่อนที่จะมีการสับเปลี่ยนกันขับรถระหว่างแม่กับลูก โดยแม่เป็นคนขับ ส่วนลูกขึ้นไปนั่งบริเวณเบาะหลังแคป จากนั้นก็ขับมุ่งหน้าไป จ.จันทบุรี จนกระทั่งถึงบริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถนนทางหลวงหมายเลข 36 ( กระทิงลาย(พัทยา) – ระยอง ) นายวรยุทธ์ ได้ใช้สายยางรดน้ำ เส้นสีน้ำเงิน ยาวประมาณ 50 ซม. โดยที่ผู้ตายไม่ทันตั้งตัว ใช้เวลารัดคอไม่ถึง 1 นาที ผู้ตายก็สิ้นใจตายไป ก่อนจะตัดสินใจขับรถกลับบ้านพัก ใน อ.นิคมพัฒนา จากนั้นตำรวจได้มีการยุติเหตุการณ์ทันที เพราะระหว่างที่มีการจำลองเหตุการณ์ กลุ่มญาติของผู้ตายได้มามายืนตะโกนด่าทอสาปแช่งผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จนหวิดเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย และจะมีการนัดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.68)
พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เปิดเผยว่า ในคดีนี้ต้องขอขอบคุณการทำงานของทุกฝ่าย ซึ่งสามารถไขปมปริศนา รวมถึงวัตถุพยานต่างๆ จนสามารถกดดันให้ผู้ต้องหายอมจำนวนต่อหลักฐาน ก่อนที่จะสารภาพความจริง โดยก่อนหน้านี้ที่ตนเองไม่อยากเปิดเผยข้อมูล เพราะรู้ว่าผู้ต้องหาอีกคน คือ ลูกชาย รู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ตำรวจตลอดเวลา โดยผ่านช่องทางการไลฟ์สด เพจใน จ.ระยอง ส่วนปมเหตุในครั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพ ทำไปเพราะสงสารแม่ เนื่องจากแม่ถูกพ่อเลี้ยง ทำร้ายร่างกาย ส่วนเรื่องที่ 2 มาจากการที่ผู้ตายจะไปขายที่ดินในจังหวัดราชบุรี โดยจะได้เงินมาประมาณ 1.1 ล้านบาท และสัญญาว่าจะแบ่งเงินให้ 3 แสน แต่ที่จริงแล้วที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินมรดกที่ผู้ใหญ่ให้ไว้สร้างที่พักอาศัย ไม่สามารถขายได้ เหมือนลักษณะว่ามาหลอก ทางผู้ต้องหาจึงเกิดความโมโห และร่วมกันวางแผนฆ่าดังกล่าว แต่เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ โดยจะทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาปมเหตุที่แท้จริง
ต่อมา 15.45 น. ทางญาติของนายวัชระ ผู้เสียชีวิต มีพี่น้อง และลูกสาวกับภรรยาคนแรก เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ซึ่งมีการใช้เสื้อยืดสีขาว เขียนชื่อจริง นามสกุลจริง และชื่อเล่น วางไว้ตรงจุดที่พบศพ จากนั้นนางสาวเป้ อายุ 30 ปี ลูกสาวภรรยาคนแรก (เสื้อสีขาว) จุดธูป เรียกชื่อพ่อ แล้วบอกกับพ่อว่า พ่อไปสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจกันนะ กลับบ้านไปกับเรานะ อย่าอยู่ตรงนี้เลย ขอให้เจ้าที่เจ้าทางเปิดทางให้พ่อกลับบ้านกลับบ้านด้วย // หนูชวนกลับบ้านไปอยู่กับหนู ทำไมพ่อไม่กลับมาอยู่กับหนู พ่อไม่คิดถึงหนูบ้างหรอ จากนั้นก็ร่ำไห้ เพราะเห็นสภาพที่ศพจริงๆ และไม่คิดว่าพ่อจะมาถูกฆ่าและโยนทิ้งตรงนี้ โดยถือกระถางธูปขึ้นรถตู้ ที่บรรจุโลงศพไว้แล้ว มุ่งหน้าไปยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ