จากกรณีตำรวจกองปราบเปิดปฏิบัติการจับกุมตัว นายฟงเหา อายุ 68 ปี สัญชาติไต้หวัน พร้อม พล.ร.ต.ประกายพฤกษ์ อายุ 64 ปี และนายเทวราช อายุ 66 ปี อดีตนาวาเอกเทวราช หลังทั้งหมดร่วมวางแผนจะฆ่า ภรรยาและลูกชายของนายฟงเหา จากปมขัดแย้งผลประโยชน์ในบริษัทประกอบธุรกิจผลิต-ส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มูลค่าพันล้าน ตามที่มีการนำเสนอไปแล้วนั้น
.เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป. กล่าวว่า แม้จะมีการจับกุมตัวการใหญ่ของขบวนการดังกล่าวได้แล้วทั้ง 3 ราย แต่ก็ยังคงต้องขยายผลตรวจสอบอย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อให้แน่ชัดว่ามีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องให้การสนับสนุนช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งจำเป็นต้องตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกมิติ ส่วนกลุ่มทีมสังหารหรือกลุ่มมือปืนที่ได้รับการว่าจ้าง ณ ตอนนี้พวกเขายังอยู่ในฐานะพยาน เท่ากับว่าตอนนี้ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวยังคงมีแค่ 3 รายเท่านั้น
“ส่วนกรณีที่จนถึงตอนนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ยังคงยืนกรานปฏิเสธ ก็ไม่ได้หนักใจ เพราะมั่นใจในพยานหลักฐานที่มีอยู่ แม้คดีดังกล่าวจะเป็นแค่การวางแผน ยังไม่ได้ลงฆ่า แต่ก็ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จึงไม่สามารถปล่อยผ่าน หรือ รอให้เกิดเหตุร้ายขึ้นได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้แบบถอนรากถอนโคน เพื่อเป็นการตัดตอนเหตุอาชญากรรมให้ลดน้อยถอยลงไป” ผกก.2 บก.ป. กล่าวทิ้งท้าย
