กลุ่มผู้ประกอบการกัญชา สมาคมกัญชาภูเก็ต จำนวนกว่า 50 คน รวมตัวกัน พร้อมแผ่นป้ายข้อความ “กัญชาต้องไม่กลับไปเป็นยาเสพติด”

ที่ บริเวณชั้นล่าง อาคารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต อ.เมือง จ.ภูเก็ต กลุ่มผู้ประกอบการกัญชา สมาคมกัญชาภูเก็ต จำนวนกว่า 50 คน รวมตัวกัน พร้อมแผ่นป้ายข้อความ “กัญชาต้องไม่กลับไปเป็นยาเสพติด” มีนายอัศม์เดช หนองแสง เป็นตัวแทน เข้ายื่นหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่า “ไม่เอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และผลักดัน พ.ร.บ.กัญชา” ผ่านทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต โดยมีนายสมสุข สัมพันธ์ประทีป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต เป็นผู้รับหนังสือ อันเนื่องจากนายกรัฐมนตรี มีดำริที่จะนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ประเภท 5 ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ท่ามกลางการดูรักษาความเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง หลังจากยื่นหนังสือเสร็จต่างแยกย้ายกลับ

นายอัศม์เดช หนองแสง ตัวแทนสมาคมกัญชาภูเก็ต กล่าวว่า เนื่องจากการประกาศของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับการจะผลักดันกัญชาให้กลับไปเป็นยาเสพติดทำให้เกิดความกังวลในหมู่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกัญชา ทางสมาคมกัญชาภูเก็ตและผู้ประกอบการจึงต้องการแสดงจุดยืน เพราะว่าการกลับไปเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 จะทำให้อุตสาหกรรมที่มีมูลค่ากว่าแสนล้านบาทภายใน 2 ปี สร้างงาน สร้างรายได้ และให้โอกาสแก่คนไทยทั่วประเทศต้องหายไปซึ่งจะทำ ให้เกิดผลกระทบ นำ ไปสู่การว่างงานและความเสียหายอย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม นายอัศม์เดช กล่าวด้วยว่า ผู้ประกอบการกัญชา ชาวสวนชาวไร่ที่ปลูกกัญชา ตั้งหน้าตั้งตารอกฎหมายกัญชงกัญชา แต่อยู่ๆ กลับมาบอกว่าจะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ซึ่งไม่ใช่วิธีคิดที่ถูกต้อง เราต้องเดินไปข้างหน้าแต่นี่เหมือนเราเดินถอยหลังกลับไปอีก สิ่งที่เราต้องการ คือ บอกว่า ทำอะไรให้ชัดเจน และเราไม่ต้องการให้กัญญากลับไปเป็นยาเสพติด

ขณะที่นายสมสุข สัมพันธ์ประทีป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จะทำการรวบรวมหนังสือและภาพถ่ายบรรยากาศของการยื่นหนังสือส่งต่อไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ทราบว่ามีผู้ไม่เห็นด้วยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่พอสมควร ทั้งนี้ในส่วนของผู้มาขออนุญาตประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาในภูเก็ตมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 1,500 ราย โดยการร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้กัญชาที่ผ่านมาก็มีอยู่บ้าง เนื่องจากเมื่อมีผู้จำหน่ายจำนวนมากและมีการแข่งขันสูง แต่เมื่อลงไปตรวจสอบไม่พบตามที่ร้องเรียน ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะหากตรวจสอบและพบจะดำเนินคดี

Subscribe
Advertisement
Adam Judd
Mr. Adam Judd is the Chief of Content of TPN media, English language, since December 2017. He is originally from Washington D.C., America. His background is in HR and Operations and has written about news and Thailand for a decade now. He has lived in Pattaya for about ten years as a full-time resident, is well known locally and been visiting the country as a regular visitor for over 15 years. His full contact information, including office contact information, can be found on our Contact Us page below.Stories please e-mail Editor@ThePattayanews.com About Us: https://thephuketexpress.com/about-us/ Contact Us: https://thephuketexpress.com/contact-us/